Our Jewels Lifestyle เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เครื่องซักผ้าประหยัดไฟและยืดอายุการใช้งาน

เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เครื่องซักผ้าประหยัดไฟและยืดอายุการใช้งาน

เครื่องซักผ้าประหยัดไฟ

                เครื่องซักผ้านั้นจัดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ช่วยทุ่นแรงและทำให้เราสามารถรับมือกับเสื้อผ้ากองโตได้อย่างสบาย ๆ แต่ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใช้น้ำและไฟมากด้วยเช่นกัน ดังนั้นการจะซักผ้าแต่ละครั้งเราก็ควรวางแผนให้ดี คิดให้รอบคอบ เพราะยิ่งเราใช้เครื่องซักผ้าบ่อยเกินไป ค่าน้ำและค่าไฟที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนก็คงจะพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้การใช้งานเครื่องซักผ้าอย่างไม่ระมัดระวังและไม่ได้ทำการดูแลอย่างเหมาะสม ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เครื่องซักผ้าเสื่อมสภาพและมีอายุการใช้งานที่สั้นกว่าที่ควร รู้อย่างนี้แล้วเรามาดูกันดีกว่าว่าจะมีวิธีการใดบ้างที่ทำให้เครื่องซักผ้าประหยัดไฟ พร้อมกับการรักษาสภาพเครื่องให้สามารถใช้งานไปได้นาน ๆ

ใช้เครื่องซักผ้าอย่างไรให้ช่วยประหยัดพลังงานได้มากที่สุด

                การใช้เครื่องซักผ้าตามวิธีการที่ถูกต้อง นอกจากจะช่วยทำให้ผ้าทุกชิ้นมีความสะอาดแล้ว ระบบประมวลผลการทำงานของตัวเครื่องก็จะสามารถทำงานได้ตามโปรแกรมที่ถูกต้องอย่างปกติ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานและส่งผลให้ประหยัดไฟได้มากขึ้นลองเอาคำแนะนำเหล่านี้ไปทดลองใช้งานกันดู แล้วสังเกตค่าน้ำ ค่าไฟ ช่วงสิ้นเดือนนี้กัน ว่าจะลดลงไปได้มากน้อยแค่ไหน

 1. ควรซักผ้าเมื่อมีจำนวนมากพอกับการซักหนึ่งครั้ง

ในการซักผ้าควรใส่เสื้อผ้าให้พอดีกับขนาดความจุของถังตามคู่มือการใช้งาน เลือกโปรแกรมการซักที่ปรับระดับน้ำให้เหมาะสมกับจำนวนผ้าในถัง และอย่ายัดหรืออัดผ้าให้มากจนแน่นเกินไป ซึ่งจะทำให้เครื่องซักผ้าเสียสมดุลและเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น

2. แช่ผ้าก่อนเข้าเครื่องเพื่อให้สามารถกำจัดคราบสกปรกได้ง่ายขึ้น

สำหรับการใช้เครื่องซักผ้าแบบกึ่งอัตโนมัติ ผู้ใช้งานควรนำเสื้อผ้าที่ต้องการซักไปแช่ไว้ในผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้สิ่งสกปรกที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าหลุดออกมา เมื่อนำผ้าเข้าเครื่องก็จะช่วยให้เครื่องซักผ้าทำความสะอาดผ้าได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม แถมยังเป็นการช่วยผ่อนแรงทำให้เครื่องซักผ้าประหยัดไฟได้อีกวิธีหนึ่ง

3. ควรแยกประเภทเสื้อผ้า ไม่ควรซักรวมกันทั้งหมดในถังเดียว

 การแยกประเภทเสื้อผ้าตามชนิดของเนื้อผ้า เช่น ผ้าเนื้อบาง กางเกงยีนส์ หรือผ้าขนหนู เพราะการซักผ้าทีละประเภทเดียวจะช่วยทำให้เราสามารถตั้งโปรแกรมการซักที่เหมาะสมได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังเป็นการช่วยถนอมเนื้อผ้าอีกด้วย เมื่อมีความต้องการซักผ้าให้ครบทุกประเภท ในแต่ละวันก็ไม่ควรใช้เครื่องซักผ้าเกิน 2 ครั้ง แต่หากจำเป็นจริง ๆ ก็ควรเว้นระยะเวลาให้เครื่องซักผ้าได้พักสักหน่อยก่อนจะเริ่มการใช้งานในรอบถัดไป

4. ใช้น้ำที่มีอุณหภูมิปกติในการซักผ้า

หากมีความต้องการใช้น้ำร้อนในการซักผ้าก็ควรพิจารณาให้รอบคอบตามเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพราะพลังงานไฟฟ้าส่วนใหญ่ที่สิ้นเปลืองไปคือการทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นนั่นเอง ดังนั้นการซักผ้าในน้ำระดับอุณหภูมิห้องหรือด้วยโปรแกรมการซักที่อุณหภูมิ 30 องศา จะช่วยทำให้เครื่องซักผ้าประหยัดไฟได้ดีที่สุด การเลือกใช้อุณหภูมิการซักที่เหมาะสมกับเสื้อผ้าจึงเป็นการประหยัดพลังงานเครื่องซักผ้าและช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกอันจะส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง

5. ใส่ผงซักฟอกที่พอเหมาะกับจำนวนผ้าที่ซัก

เพราะการใส่ผงซักฟอกที่มากเกินไปอาจทำให้เครื่องทำงานได้ยากขึ้น และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่เหมาะสมกับตัวเครื่องก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เช่น การซักผ้าด้วยเครื่องแบบฝาหน้าซึ่งเป็นรูปแบบที่ประหยัดไฟได้มากอยู่แล้ว ก็ควรเลือกใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับเครื่องฝาหน้าโดยเฉพาะ เนื่องจากเครื่องประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องมีฟองมากขณะซัก เพื่อป้องกันปัญหาจำนวนฟองที่มากเกินไปจนไปรบกวนประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องซักผ้า

6.ทำความสะอาดตัวกรองอย่างสม่ำเสมอ

ทุก ๆ ครั้งที่มีการซักผ้า สิ่งสกปรกบางส่วนอาจจะไม่ได้ไหลออกไปพร้อมกับน้ำทิ้งทั้งหมด จึงเกิดการสะสมอยู่ภายในเครื่องซักผ้า และทำให้ตัวกรองระบายน้ำทิ้งเกิดการอุดตัน การทำความสะอาดตัวกรองอย่างสม่ำเสมอจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกเหล่านั้นออกไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำออกจากตัวเครื่อง และจะทำให้เครื่องซักผ้าประหยัดไฟได้มากขึ้นอีกนิด เพราะไม่มีสิ่งสกปรกมาหน่วงการทำงานของเครื่อง

                ตราบใดที่เครื่องนุ่งห่มยังคงเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต การทำความสะอาดเสื้อผ้าก็ยังจะคงอยู่กับเราต่อไป การใช้งานเครื่องซักผ้าควรปฏิบัติตามคู่มือแนะนำในการใช้อย่างเคร่งครัด ซึ่งก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยลดพลังงานในการซักผ้าและทำให้เครื่องซักผ้าประหยัดไฟ คงไว้ซึ่งการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วยังเป็นการช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับโลกใบนี้ไปด้วยพร้อมกัน

Related Post

วิธีตกแต่งภายใน ห้องนอนให้น่าอยู่วิธีตกแต่งภายใน ห้องนอนให้น่าอยู่

ห้องนอนถือเป็นห้องสำคัญที่สุดในบ้าน เนื่องจากว่าเป็นสถานที่ซึ่งเราใช้ในการพักผ่อนนอนหลับจากภาระการงานที่เหนื่อยล้าในแต่ละวัน อย่างไรก็ดีการตกแต่งในห้องนอนให้น่าอยู่ไม่ถือเป็นเรื่องยากแต่อย่างใด เนื่องจากว่าวิธีตกแต่งภายใน ห้องนอนมีทริคเด็ดๆ หลายประการดังต่อไปนี้ 1.ใช้พรมปูพื้นเพิ่มมิติในห้อง สำหรับสิ่งแรกที่แนะนำให้หลายๆ คนทำกันก็คือการใช้พรมปูพื้นในห้องนอน เนื่องจากพรมจะช่วยให้ห้องนอนของเรามีความน่าอยู่ ลักซัวรี่ได้มากกว่าเดิม เหมาะสมกับคนที่ห้องนอนแคบอีกด้วย จุดเด่นของการใช้พรมตกแต่งในห้องนอนคือคุณจะสามารถใช้พรมสีขาว หรือสีเทา บางคนอาจจะเลือกใช้ลายหินอ่อนก็ได้เช่นกัน การใช้พรมปูพื้นลายหินอ่อนแล้วกางโต๊ะญี่ปุ่นด้านบนถือเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง 2.ใช้การตกแต่งด้วยดอกไม้สด ในบรรยากาศเช่นนี้ไม่มีอะไรจะดีกว่าการตกแต่งด้วยดอกไม้สด เพราะดอกไม้สดจะทำให้ห้องนอนของคุณสวยงามและน่าอยู่อาศัยกว่าเดิม บางคนเลือกปลูกดอกกุหลาบ ดอกยิปโซ ซึ่งสามารถตัดดอกมาปักแจกันได้ ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน จะดีกว่าหรือไม่หากว่าเราจะเลือกทำในสิ่งที่ตอบโจทย์ของเรามากที่สุด 3.ตกแต่งด้วยโซฟานั่งเล่น ไม่มีข้อห้ามใดที่จะบอกว่าโซฟาต้องอยู่ที่ห้องรับแขกเท่านั้น หากแต่โซฟาเองก็สามารถอยู่ที่บริเวณห้องนอนได้เช่นกัน เราสามารถใช้โซฟาในการนั่งอ่านหนังสือ เล่นแท็บเล็ตหรือดูหนังออนไลน์ได้ ข้อดีของการมีโซฟาในห้องนอนก็คือคุณจะสามารถนั่งพักได้โดยไม่ต้องใช้เตียงนั่นเอง

รับสร้างบ้าน

วิธีมองหาผู้รับสร้างบ้านวิธีมองหาผู้รับสร้างบ้าน

อาจจะกล่าวได้ว่าในยุคนี้ไม่ว่าใครก็ตาม ต่างปรารถนาที่จะสร้างบ้านกันเองด้วยทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากว่ามีที่ดินเป็นของตนเองอยู่ที่ต่างจังหวัดแล้วบ้าง บางคนก็อยากจะใช้พื้นที่ของตนให้มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น เป็นต้น อย่างไรก็ดีหากว่าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากมองหาผู้รับสร้างบ้านที่เก่ง แนะนำเลยว่าให้มองหาผู้รับสร้างบ้านตามวิธีดังต่อไปนี้  1.เลือกที่มีประสบการณ์สูง  สำหรับสิ่งแรกที่สำคัญมากที่สุดก็คงจะหนีไปไม่พ้น การเลือกช่างที่มีประสบการณ์สูงเป็นหลัก ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าการเลือกคนที่มีประสบการณ์สูงนั้น จะช่วยให้เราได้บ้านที่ตรงกับใจต้องการ และที่สำคัญ เราเองก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายอีกด้วยว่า เราอยากได้บ้านแบบไหน ที่สำคัญคือ ช่างที่มีประสบการณ์สูงก็จะรู้ด้วยว่า การสร้างบ้านมีหลักเกณฑ์อย่างไร อีกทั้งยังสามารถให้คำแนะนำเพิ่มเติมได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะดีกว่าหรือไม่ หากเราจะเลือกผู้รับก่อสร้างบ้านที่มีประสบการณ์สูง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว  2.เลือกผู้รับสร้างบ้านที่ใจเย็น  สำหรับสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะกำหนดในใจไว้ตั้งแต่แรกก็คือ การเลือกผู้รับก่อสร้างบ้านที่ใจเย็น อาจจะกล่าวได้ว่าคนที่ใจเย็น จะทำให้การสร้างบ้านดำเนินไปอย่างราบรื่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเวลาที่ใครได้แจ้งกับทางผู้รับก่อสร้างบ้าน ถึงข้อกังวลในด้านต่างๆ

7 สิ่งสำคัญที่รู้แล้วอย่าหาทำ ในการขับรถช่วงฝนตก7 สิ่งสำคัญที่รู้แล้วอย่าหาทำ ในการขับรถช่วงฝนตก

เราทุกคนต่างทราบดีว่ายามที่หยาดพิรุณสายฝนโปรยปราย ย่อมก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อผู้ขับขี่เสมอ ใครที่เตรียมพร้อมมีการซื้อประกันภัยรถยนต์ไว้ ก็อาจจะเบาใจไปได้บ้าง แต่สำหรับใครที่รถไม่มีประกันก็คงจะไม่ค่อยจะมั่นใจในการขับรถช่วงฝนตกกันสักเท่าไหร่ แต่คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างกัน พฤติกรรมและลักษณะนิสัยในการขับขี่จึงต่างกันไป มีหลายคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงมาก เรียกว่ามั่นใจในฝีมือกับขับรถของตนเองเลย ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ซื้อประกันภัย รถยนต์ไว้ด้วย แต่เพราะมีประสบการณ์ขับรถมาเยอะ จึงรอดพ้นจากอันตรายมาได้เพราะฝีมือการขับขั้นเทพ แต่สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ เราจะขอมาแนะนำ 7 สิ่งสำคัญที่รู้แล้วอย่าได้ทำเวลาขับรถในช่วงที่ฝนตก มีอะไรบ้างที่มือใหม่ควรตระหนัก มาดูกัน 1.ขับรถลุยน้ำ สำหรับในกรุงเทพฯ การขับรถลุยน้ำก็เสี่ยงที่น้ำจะเข้ารถได้อยู่แล้ว หากยิ่งขับในต่างจังหวัดที่เราไม่คุ้นชินทางในพื้นที่ยิ่งต้องระวัง เพราะคุณไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าระดับน้ำนั้นแท้จริงสูงแค่ไหน ขับรถลุยน้ำแล้วจมทั้งคัน มีข่าวให้เห็นประจำ ฉะนั้นอย่าเสี่ยงเลยจะดีกว่า 2.ขับเร็วกว่าปกติ