เทศกาลปีใหม่เข้าใกล้มาทุกทีแล้ว การหาของขวัญสุดพิเศษ ไม่ซ้ำใคร ให้คนพิเศษ มักจะเป็นกิจกรรมที่หลายคนเลือกทำ ซึ่งหนึ่งในของขวัญยอดฮิตสำหรับเทศกาลส่งท้ายปีแบบนี้ต้องยกให้ “จิวเวลรี่” เพราะเป็นของที่สามารถแทนความหมายได้หลากหลาย
แต่บางครั้งการจะทำจิวเวลรี่ด้วยตัวเองก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ไม่มีทักษะด้านศิลปะ ต้องการของขวัญจำนวนมาก ใช้ต้นทุนสูง หรือไม่มีเวลาว่างมากพอ ดังนั้นการลงมือออกแบบกล่องจิวเวลรี่และทำด้วยตัวเองก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ออกแบบกล่องจิวเวลรี่
ข้อมูลที่ต้องรู้ก่อนการออกแบบกล่องจิวเวลรี่มีดังนี้
- ขนาดของจิวเวลรี่ที่จะนำไปมอบเป็นของขวัญ ทั้งความกว้าง ยาว และสูง รวมถึงระยะที่ต้องการเผื่อไว้สำหรับใส่การ์ดหรือแพ็กเกจจิ้งที่ห่อหุ้มชั้นแรกก่อนจะนำไปใส่กล่อง
- ข้อจำกัดของจิวเวลรี่ชิ้นนั้น ๆ เช่น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บรักษา ข้อควรหลีกเลี่ยง ฯลฯ เพราะสำคัญกับการเลือกวัสดุมาทำกล่องในขั้นตอนต่อไป
- น้ำหนักคร่าว ๆ ของจิวเวลรี่ เนื่องจากวัสดุทำกล่องที่ต่างกัน จะมีคุณสมบัติในการรับน้ำหนักที่ต่างกันไป
เมื่อรู้ข้อมูลเหล่านี้แล้วก็นำมาลงมือออกแบบรูปทรงและลวดลายของกล่องได้เลย โดยจะออกแบบในสไตล์ที่เป็นคุณ เพื่อเป็นตัวแทนของผู้ให้ หรือสไตล์ของผู้รับ เพื่อแสดงถึงความตั้งใจมอบให้คนที่คุณรักเป็นพิเศษก็ได้เช่นกัน
เลือกวัสดุที่ใช่
วัสดุยอดนิยมในการทำกล่อง ได้แก่
กระดาษ (Paper)
เหมาะสำหรับคนมีงบประมาณจำกัด และอยากร่วมรักษ์โลก หรือชอบประดิษฐ์กล่องแบบข้อจำกัดน้อยที่สุด เพราะเป็นวัสดุที่หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง สามารถเลือกความหนาได้ตามต้องการ อีกทั้งยังช่วยรักษ์สิ่งแวดล้อม เนื่องจากย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และนำมารีไซเคิลได้ ช่วยลดปัญหาขยะล้นเมืองในอนาคต
ส่วนข้อด้อยคือ ถ้ากะปริมาณกาวไม่ดี อาจทำให้กาวซึม เกิดรอยเปื้อนได้ง่าย และต้องระวังอย่าให้โดนน้ำ
ผ้า (Silk)
วัสดุผ้ามีหลายประเภท สามารถเลือกใช้ได้ตามคุณสมบัติ เช่น ถ้าต้องการความแข็งแรงและหรูหรา ควรใช้ผ้ากำมะหยี่ เพราะเนื้อผ้าค่อนข้างหนาและมีพื้นผิวที่สวยงาม ถ้าชอบผ้าลื่นขึ้นเงา แต่ยังคงความเรียบหรู ก็เป็นผ้าซาติน ถ้าชอบผ้าสีด้าน ๆ ไม่มันเงา และเนื้อผ้านุ่มให้ใช้ผ้าฝ้าย เป็นต้น
สำหรับข้อควรระวังของวัสดุประเภทนี้ คือ ราคาสูงกว่ากระดาษ บางร้านไม่แบ่งขายชิ้นเล็ก ต้องซื้อขั้นต่ำยกหลาหรือยกม้วน รวมถึงอาจใช้กับกาวบางอย่างไม่ได้ จำเป็นต้องมีวัสดุอื่นเพื่อช่วยขึ้นโครงร่างกล่องประกอบกันไปด้วย และผ้าบางชนิดอมฝุ่นและน้ำ ควรระมัดระวังในการเก็บรักษา
หนัง (Leather)
หนังเป็นวัสดุที่ทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดในบรรดาวัสดุที่ยกตัวอย่างมา แบ่งเป็นหนังแท้และหนังเทียม ซึ่งหนังแท้เป็นหนังสัตว์แท้ 100% ที่ผ่านกระบวนการทางเคมีมาแล้ว มีข้อจำกัดคือราคาสูง เริ่มหายากขึ้น เพราะปัจจุบันมีการรณรงค์ลดการใช้หนังแท้ในการทำสิ่งของ
ส่วนหนังเทียมคือวัสดุที่ถูกทำให้ใกล้เคียงกับหนังแท้ เช่น PU PVC เป็นต้น หาซื้อได้ง่าย ราคาถูกกว่าและออกแบบกล่องจิวเวลรี่ให้ใส่ลูกเล่นได้มากกว่าหนังแท้ มีข้อจำกัดคือความคงทนที่อาจไม่เทียบเท่าหนังแท้
ใช้บริการออกแบบกล่องจิวเวลรี่กับมืออาชีพ
วิธีสุดท้ายในการออกแบบกล่องจิวเวลรี่คือใช้บริการจากมืออาชีพที่มีประสบการณ์มาหลายสิบปี เหมาะสำหรับคนไม่ถนัดทำงานศิลปะ หรือไม่มีเวลาทำงานฝีมือด้วยตัวเอง เพราะผู้ที่รับออกแบบอย่าง บริษัท อาร์ซี. แพ็คเกจ ดีซายน์ จำกัด นอกจากจะช่วยคุณออกแบบได้แล้ว ยังมีบริการจัดทำกล่องให้ด้วย เรียกได้ว่าครบวงจรในที่เดียว ช่วยประหยัดทั้งเวลาและงบประมาณได้เป็นอย่างดี ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ https://rcpackagedesign.com/
